วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มาดูดคลิปจาก you tube ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อโปรแกรม

มีหลาย ๆ คนถามมาว่า ช่วงนี้เข้าไปดูหลาย ๆ วิดีโอคลิปใน http://www.youtube.com กันเกือบทุกวัน เพราะเนื้อหามันทันใจ บางทีนอกจากจะสนุกสนานแล้ว ยังมีรูปแบบโฆษณา มิวสิควิดีโอใหม่ ๆ หรือมีเนื้อหาที่ให้ความรู้ คราวนี้ถ้าเราเกิดเราอยากจะดูดเก็บเอาไว้ดูส่วนตัวในยามว่าง ๆ ทำไงดี ถ้าไม่มีโปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับทำการดูดคลิป มาทางนี้เลยครับผมจะแนะนำโปรแกรมออนเว็บที่ใช้ง่าย ๆ และสามารถทำได้เครื่องไหนก็ได้ เพราะเป็นการเรียกใช้ผ่านเว็บ เพราะบางวันเราต้องการใช้คลิปอันนี้ แต่ดันไม่ได้เอาเครื่องโน๊ตบุ๊คมาด้วยซะนี่ หรือบางคนไม่อย่าลลงโปรแกรมให้เครื่องมันช้า สำหรับเว็บที่ใช้ในการดูดคลิปจาก Youtube หรือเว็บอื่น ๆ ก็ได้ด้วยนะครับ ปกติมีหลายตัว แต่ตัวที่ใช้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน มีชื่อว่า http://keepvid.com ครับ ตามมาดูกันเลย
1. เริ่มกันที่เราต้องเข้าไปที่ Web ไปที่ http://keepvid.com ดังภาพ หรืออาจ ค้นหาใน Google ก็ได้เช่นกันครับ
หน้าตามันจะง่าย ๆ ให้เราโหลดได้ทันใจนะครับ(คงหลักการเดียวกับ Google มั้งครับ ง่าย ๆ แต่เร็ว)

2. คราวนี้ให้เราเข้าไปเลือกเว็บไซด์ที่มีคลิป ผมยกตัวอย่างเป็นเว็บไซด์ youtube.com เป็นตัวอย่างนะครับ โดยเข้าไปที่ http://www.youtube.com
จะเห็นหน้าตาของเว็บไซต์ดังที่เห็น คราวนี้ต้องการเนื้อหาอะไรก็ใส่เข้าไปตามช่องที่ลูกศรชี้ไว้ อย่างผมอยากหาเรื่องรามาธิบดีก็ใส่เข้าไปดังรูปด้านล่าง
จะปรากฎ คลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้องมาให้เราเลือกดู
โอ้โฮ เยอะเหมือนกันแสดงว่าสื่อสารองค์กรได้ใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารรามาธิบดีออกไปภายนอกพอสมควรทีเดียวครับ ดังตัวอย่างถ้าเราสนใจ CVMC Ramathibodi Part 1 ก็ ดับเบิ้ลคลิ๊กเข้าไป
จะปรากฎภาพของวิดีโอคลิปให้เรารอดู ให้สังเกตที่มุมบนขวาจะมีที่อยู่ URL ดังภาพให้เรา Copy เพื่อไป paste ใน Keepvid.com ต่อไป

3. นำเอา URL ที่ Copy มา Paste ลงใน ช่อง URL ของ KEEPVID ดังภาพ

เมื่อหาเจอ source ของวิดีโอคลิป(3) จะแสดงดังนี้ จากนั้นคลิ๊ก download (4) โดยไฟล์ที่ถูกจัดเก็บจะเป็นวิดีโอประเภทแฟลช ขนาด 320 x 240 Pixels ตรงนี้จะงงนิดเพราะบางคนหวังว่าจะ SAVE ได้เลย ไม่ใช่ครับ ให้มองด้านล่างจะเห็นแถบเขียว ๆ
4. จะปรากฎ Tool box มาถามว่าจะเปิดดูหรือจัดเก็บ ให้เราคลิ๊ก SAVE ไปไว้ใน Folder ที่ต้องการได้เลย
ในที่นี้ผมเลือกไปเก็บที่ My Documents
จะตั้งชื่อใหม่หรือไม่ก็ได้ครับ หลังจากนั้นรอระบบ Load ลงมาเก็บใน Folder ที่ต้องการ
5. ลองเปิด Files ที่ download เสร็จมาดูสามารถใช้ Program ดู video ที่รองรับ flash ดูได้เลยครับ สะดวกดี สามารถเอามาดูเมื่อไรก็ได้ครับ
6. เปิดดูด้วย VLC media ก็ได้ครับ เพราะเปิดได้ทุกชนิด

น่าจะเป็นทิปที่ดีใกล้ ๆ ช่วงคริสต์มาสและปีใหม่นี้นะครับ เพื่อจะได้ไว้ใช้ดูดคลิปอวยพรปีใหม่สวย ๆ มาเก็บส่งต่อให้คนที่เรารักได้ง่าย ๆ ครับ Merry X’s mas & Happy New Year 2010 ทุก ๆ คนครับ

อาจารย์นายแพทย์ ศักดา อาจองค์, พบ, บธบ.
SAKDA ARJ-ONG, MD, BBA, MS.ICT
PHD program of clinical epidemiology,
Pediatrist, Pediatric Cardiologist & Intervention Ped.Cardiology
Family physicians, Emergency physicians.
Certificates in Pediatric Emergency,
Emergency Medicine, Ramathibodi Hospital, Mahidol University

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มาออกเสียงสำเนียงอังกฤษ ให้ถูกต้องกันดีกว่าด้วย Online Dictionary & Pronunciation (Merriam Webster)

ฉบับนี้ติดพันเกี่ยวเนื่องมาจากฉบับก่อนครับ ตอนนี้ที่อเมริกาหนาวครับผู้เขียนเลยถือโอกาสเปลี่ยนรูป เปลี่ยนบรรยากาศซะหน่อย ก็ราว 4-14 อาศาเซลเซียสทีเดียวหนาวจนแทบจะอาบน้ำไม่ได้ โชคยังดีที่มีน้ำอุ่น ๆ ให้อาบครับ บทความนี้พอดีได้คุยกับคนที่มาโตในอเมริกาและพบปัญหาเรื่องการออกเสียงครับ หรือเขาเรียกว่า Pronunciation ครับ(ซึ่งจริง ๆ ผมก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกันในขณะอยู่ที่นี่ ฝรั่งฟังเข้าใจครับ +55 เพราะเขาพยายามเข้าใจ แต่ยังไงสำนียงก็ไม่เหมือนอยู่ดี) สำหรับ Pronunciation class นั้นเป็นสิ่งซึ่งเราหาเรียนได้ยากในเมืองไทยจริง ๆ ก็เป็นเรื่องตลก ๆ นิดนึงครับเกี่ยวกับการออกเสียงของชื่อคนไทยเรานี่แหละครับ จึงเป็นที่มาของบทความนี้ ซึ่งก็คือการนำเอาเทคโนโลยีด้านไอทีมาช่วยตรวจสอบการออกเสียงหรือถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือให้มันถูก accent นะครับ เอาหละเข้าเรื่องกันเลยที่มาก็คือ ชื่อครับ !! คนไทยที่มักมีชื่อว่า “พร” ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของชื่อ เรามักจะเขียนว่า “porn” ซึ่งก็ดูมันถูกต้องตรงตัวดี ในความคิดของคนไทยนะครับ แต่ฝรั่ง...ไม่ครับ มักได้ยินและอดยิ้ม ๆ แบบขำ ๆ ไม่ได้ เพราะคำว่า “porn” นั้นฝรั่งเขาแปลว่า……(อำไว้ก่อน...หนุ่ม ๆ จะคุ้นๆ กับคำนี้อยู่) ซึ่งถ้าคุณชื่อ “ ศุภาภรณ์ หรือ สุภาพร “ ด้วยแล้วถ้าออกเสียงตามประสาคนไทยที่ถูกบ้างผิดบ้าง ก็อาจทำให้ฝรั่งหัวเราะกลิ้งเลย เพราะมันจะไปคล้ายกับคำว่า Superporn เข้าลองคิดดูก็แล้วกันครับ ว่าคืออะไร กลับมาที่โปรแกรมหรือเทคโนโลยี่ที่ผมพูดถึงก็คือ webbase หรือ Website ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันครับ เพียงแต่เรารู้แหล่งที่ช่วยให้เรารู้ความหมายและออกเสียงให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นครับ ถ้าสงสัย เปิดดูและหมั่นฝึกฝน Web ที่ว่านี้ก็คือ http://www.merriam-webster.com/ หรือย่อ ๆ พิมพ์ไปว่า http://www.m-w.com/ ก็สามารถเข้าถึงได้เช่นกันครับ เว็บไซด์นี้จะเป็นทั้ง Online Dictionary รวมถึงการออกเสียง แถมยังมี thesaurus ที่แสดงการเขียนตัวอย่างแบบรูปประโยค รวมถึงศัพท์ทางการแพทย์(Medical dictionary ) ด้วยครับ ดีไม่เบาเลยใช่ไหมครับ ?
1. เริ่มกันที่เราต้องเข้าไปที่ Web ไปที่ http://www.merriam-webster.com/ หรือ http://www.m-w.com/ ดังภาพ หรืออาจ ค้นหาใน Google ก็ได้เช่นกันครับ
พอเห็นแล้วทุกคนอาจจะรู้สึกเสียดายนิดที่มันแปลอังกฤษเป็นอังกฤษนะครับ แต่จะง่าย ๆ และได้ความรู้มากกว่าแปลอังกฤษ-ไทย ในความคิดส่วนตัวของผมเอง เพราะถ้าไม่รู้เราก็ต้องหาความหมายคำที่อธิบายเพิ่มต่อไปอีก คราวนี้เรามาหาคำว่า porn ดังที่ยกตัวอย่างละกัน
โดยกรอกตรง ๆ ดังนี้
แล้วก็กด Search ต่อครับ
2. ผลลัพธ์จะแสดงให้ดังที่เราเห็น

เมื่อเราคลิ๊กที่สัญญาลักษณ์ลำโพงสีแดงเล็ก ๆ โปรแกรมก็จะทำงานขึ้น pop up ให้เราเห็นและฟังสำเนียงการออกเสียงได้ทันที ฟังซ้ำกี่ครั้งก็ได้
ซึ่ง Porn คำนี้จะมีความหมายเหมือน pornography ซึ่งเป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกแปลว่าหญิงให้บริการ (Prostitute) หรือ หนังสือหรือสื่อยั่วยุทางกามารมณ์ หรือ เว็บไซด์อนาจารหรือโป๊เปลือยก็เช่นเดียวกันครับ คราวนี้พอรู้ความหมายคงอดขำกับชื่อ Supaporn ที่อาจออกเสียงกันผิดบ่อย ๆ คล้าย Superporn อาจต้องเปลี่ยนชื่อหรือหาตัวสะกดอื่น ๆ กันล่ะครับที่นี้ มีหลายท่านแนะนำให้ใช้ Paun แต่เรารู้สึกขัด ๆ หลายคนอาจตัดใจเปลี่ยนไปเลยเพราะไม่อยากเป็น Super-porn นะครับ
3. ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็น กรอบเหลี่ยม ๆ ของ word click ในกรณีที่แปลคำที่แปลมาไม่ออกก็ให้ ดับเบิ้ลคลิกที่ตำแหน่งนั้นมันก็จะแปลต่อไปให้เราได้เลย แต่ต้อง check ใน radio check box เป็น on ดังภาพ

ก็จะแปลต่อให้เห็น
4. นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถค้นและฝึกออกเสียงไม่ว่าจะเป็น Medical term หรือกลุ่มคำใน Thesaurus ก็จะช่วยให้เราเห็นรูปประโยคและคำที่คล้ายๆ กันมากขึ้น
5. ที่แถมมาก็คือ Free Podcast สำหรับผู้ที่จะฝึกฟังสำเนียงภาษาอังกฤษกัน ก็สะดวกดีครับ ฉบับนี้คงแนะนำพอหอมปากหอมคอแค่เพียงเท่านี้ก่อน เพราะใกล้จะกลับเมืองไทย เต็มทนแล้วครับ งานกำลังยุ่งทีเดียว ฉบับหน้าผมจะมาต่อภาคสองให้ล่ะกัน โดยจะพูดถึง Visual Dict , Podcast และส่วนอื่นที่น่าสนใจ ๆ กัน ฝากการบ้านลองหาคำว่า Prostitute ว่าอ่านว่ายังไง ลองออกเสียงด้วยตนเองก่อนนะครับแล้วค่อย เปิดฟังว่าผิดหรือถูก

อาจารย์นายแพทย์ ศักดา อาจองค์, พบ, บธบ.
SAKDA ARJ-ONG, MD, BBA, MS. In ICT
PHD program of clinical epidemiology,
Pediatrist, Pediatric Cardiologist & Intervention Ped.Cardiology
Family physicians, Emergency physicians.
Emergency Medicine, Ramathibodi Hospital, Mahidol University

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

Program Dictionary ฟรี Highlight คำแล้วแสดงผลให้เห็นทันที น่าสนใจแบบนี้ มีที่ไหน ?

บทความนี้ติดพันเกี่ยวเนื่องจาก RMP(Rama Plus Magazine) ฉบับ ก่อน เพราะผู้อ่านหลายท่านได้เมลล์มาถามถึงโปรแกรมดิกชันนารีที่ดี ๆ และฟรี ว่าอาจารย์ แนะนำตัวไหน ของเดิมส่วนใหญ่ที่ถามกันจะมักใช้เป็นของ Thai software Dictionary กันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเวลาแปล ต้องกลับไปเปิดหน้าโปรแกรมซึ่งค่อนข้างไม่สะดวก เพราะอยู่คนละหน้าต่างกัน ฉบับนี้ ผมก็เลยมาแนะนำ Dictionary ตัวโปรดของผมเลย ซึ่งมีสองโปรแกรมที่ใช้บ่อย ๆ ที่ฟรี และสะดวกใช้เนื่อที่ค่อนข้างน้อย และเวลาเรา Highlight มันจะขึ้นคำแปลมาให้เลย ฉบับบนี้ขอแนะนำแค่โปรแกรมเดียวก่อนครับ โปรแกรมที่ว่านี้คือ Highlight Dictionary version 2.3 ขนาดของโปรแกรมไม่ใหญ่มากนักราว 6.26 MB แล้วฉบับหน้าถ้ามีเวลาผมจะมาแนะนำอีกอันที่เหลือนะครับ

1. เริ่มกันที่เราต้องเข้าไปที่ Web ที่ผมเตรียมไว้ให้ก็ได้ครับสะดวกดี ไปที่ http://statidea.blogspot.com/ แล้วไปมองหาที่เมนูซ้ายมือที่หัวข้อ Programs แล้ว Double click ที่ Highlight dictionary 2.3 (freeware) ดังภาพ หรืออาจ ค้นหาใน Google ก็ได้เช่นกันครับ



จะเห็นว่าเป็นโปรแกรมฟรี ใช้ได้กับ Window ตระกูลต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่นะครับ ถ้าใครใช้ Linux รู้สึกผมจะยังไม่เห็นมีนะครับ พอดับเบิ้ลคลิก เราก็ save ตัวโปรแกรมไว้ในคอมของใครของมัน Folder ไหนแล้วแต่ใจชอบครับ




หลังจากนั้นก็ติดตั้งจะไว้ที่ C:/program หรือ D:/program ก็ได้ครับไม่แตกต่างกัน ผมชอบไว้ที่ D: จะได้ไม่กวนการทำงานโปรแกรมหลัก พอลงเสร็จปุ๊บจะมีไอคอนไปขึ้นที่ Tool bar และ ที่ใน All Program ให้เป็นรูปหนังสือเปิดให้ เห็นดังภาพครับ


2. การเปิดโปรแกรมง่าย ๆ ครับ มีสองวิธี วิธีแรกก็ double click กันตรง ๆ เลยที่ program icon ใน All program นั่นหละครับ ส่วนวิธีที่สองก็ คลิ๊กขวาที่ Icon หนังสือที่ tool bar ด้านล่าง มันจะขึ้น

เราก็ คลิ๊กที่ เปิดโปรแกรม ครับ

3. จะเห็น Program เปิดขึ้นดังภาพ

ถ้าต้องการย่อ ให้คลิ๊กที่สามเหลี่ยมด้านล่างดังภาพ


โปรแกรมจะยุบลง ซึ่งส่วนใหญ่จะแนะนำให้เก็บไว้ซ้ายมือของจอ เพราะจะไม่รบกวน Scroll Bar

4. วิธีใช้มีสองแบบ ครับ โดยวิธีแรก ก็คือการแปลตรง ๆ โดยการพิมพ์ หรือ Copy จากที่อื่นแล้วมา Paste เพื่อแปล ดังภาพ

ผลแปลจะแสดงออกมาให้เห็นดังภาพ

จะมีคำแปล คำอ่าน ประเภทของคำต่าง ๆ เช่น adj. vt n. และอื่น ๆ โดยโปรแกรมนี้จะดึงฐานข้อมูลคำศัพท์ จาก dictionary ชั้นนำหลาย ๆ แหล่ง เช่น Hope, Lexitron มาให้ รวมทั้งยังแสดงคำศัพท์ใกล้เคียงมาให้ พร้อมสรรพ

5. ส่วน วิธีที่สองเป็นจุดเด่นของโปรแกรมนี้ครับ ในขณะที่เราอ่านเอกสารอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Word files, PDF files , Web Page , E-Book เกิดอ่านแล้วสะดุดไม่เข้าใจ ทำให้บางที่เข้าใจข้อความผิดถ้าเราเปิดโปรแกรม Highlight Dictionary 2.3 ไว้แล้ว หรือย่อซ่อนไว้ ไม่มีปัญหาครับให้เรา Highlight คำนั้น ๆ ที่เราแปลไม่ออกนั่นหละครับ ดังภาพสมมติว่าผมไม่เข้าใจ ว่า impact แปลว่าอะไรก็เอา mouse Highlight มันซะ ดังรูป

หลังจากนั้นครับก็กด Key ลัด ที่โปรแกรมตั้งไว้ (ซึ่งเราจะสามารถ Set ได้ทีหลังว่าจะเอาปุ่มไหน ก็ได้ครับ) ก็คือกดปุ่ม Window + X พร้อมกันหลังจากที่เรา Highlight คำนั้น ๆ แล้ว ดังภาพ

จะปรากฎคำแปรออกมาให้เห็นในโปรแกรมที่เรายุบซ่อนไว้

เราสามารถ Copy ไปใส่ File เอกสาร ที่เราไว้อ่านได้เลยครับ เผื่อว่าวันหลังจะมาอ่านซ้ำอีก ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้เราเรียนภาษาอังกฤษ และได้คำศัพท์เพิ่มทุกวันไปในตัวอย่างไม่น่าเชื่อครับ

ดังภาพ

6. ถ้าท่านใดเป็น นักใช้ประเภท Super man เอ้ย Super user ก็สามารถเข้าไปตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ดังภาพด้านล่างนี้นะครับ

แค่เพียงเท่านี้ เราก็ได้ Dictionary มือ ฉมังเช่นเดียวกัน มาช่วยและสะดวกใช้ไม่ต้องสลับโปรแกรมไปมา ช่วยให้อ่านบทความภาษาอังกฤษได้เข้าใจมากขึ้น ยิ่งช่วงนี้อะไรอะไรก็เป็น E-Book กัน ไปหมด อันนี้จะสามารถช่วยเราได้อย่างดีทีเดียวครับ อากาศเริ่มเย็น มีฝนตกต้องดูแลสุขภาพกันนิดครับ เสียดายไม่มีโปรแกรมกันฝน แต่มีโปรแกรมพยากรณ์อากาศ แล้ววันหลังจะมา Update ให้ทราบกันอีกทีครับ


อาจารย์นายแพทย์ ศักดา อาจองค์, พบ, บธบ.
SAKDA ARJ-ONG, MD, BBA, MS. In ICT
PHD program of clinical epidemiology,
Pediatrist, Pediatric Cardiologist & Intervention Ped.Cardiology
Family physicians, Emergency physicians.
Emergency Medicine, Ramathibodi Hospital, Mahidol University

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

9 ขั้นตอน สำหรับการแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ให้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ?

บทความนี้ส่งมาทางไกลหน่อยครับจาก Nationwide Children Hospital, Columbus, Ohio State University ซึ่งผมมีโอกาสได้มาฝึกงานและศึกษาด้านวิจัย รอบนี้ต้องขอบอกว่าตัวเองต้องวุ่นวายกับเอกสารหลาย ๆ อย่าง ที่ต้องเตรียมเป็นภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย เอกสารคำร้อง ซึ่งบางอันมีแบบร่างเป็นภาษาไทยไว้บ้างแล้ว ในกรณีแบบนี้บางท่านพอต้องแปลไทยเป็นอังกฤษถึงกับต้องร้องโอโห !!! หรือพาลเอาขี้เกียจทำเลยทีเดียว เอาเป็นว่าผมมีทางออกง่าย ๆ ให้ครับ สำหรับยุค Google Citizen ที่นิยมเรียกกันติดปากในขณะนี้ เพราะขนาดอีเมลก็ใหญ่ มีปฏิทินออนไลน์ มีแผนที่นำทาง มีเอกสารออนไลน์ จิปาถะ ไอ้เรื่องแค่การแปลภาษาทำไมจะทำไม่ได้ครับ แต่จะกี่เปอร์เซ็นต์ต้องดูต่อไปครับ

1. เริ่มกันที่ เราต้องเข้าไปที่ http://translate.google.com/translate_t# หรืออาจ ค้นหาใน Google ก็ได้เช่นกัน
หรือ เข้าไปที่เมนูของ Google เองแล้วเลือก option ที่ even more>> จะปรากฎ drop down list
ให้เลือกเราเลือกไปที่ สัญญาลักษณ์ของ Google translate ดังภาพ ก็จะเข้าสู่เมนูของ Google translate ได้เช่นเดียวกัน
2. เริ่มลงมือกันเลยการแปลเอกสารสามารถทำได้สองวิธีโดยการพิมพ์เป็นประโยคสั้น ๆ วลี หรือคำก็ได้ลงไป เปรียบเสมือนดิกชันนารีดี ๆ เรานี่เองครับ นอกจากแปลเป็นภาษาไทยแล้วภาษาอื่น ๆ ก็ได้ เช่น จีน ลาติน เสปน เป็นต้น พิมพ์หรือ Copy และ paste มาลงก็ได้ ให้เลือก ไทย แปลเป็นอังกฤษ หลังจากนั้นกดที่ปุ่ม Translate ดังภาพ
เลือกภาษา
3. ผลลัพธ์จะเห็นดังภาพ ประโยคสั้น ๆ มักถูกต้องและใช้เวลาในการแปลเร็วกว่าในกรณีที่เราแปลทั้ง Document ครับ เราจะเห็นขบวนการการแปลและให้รอ(ตอนนี้ต้องใจเย็น ๆ)
ผลออกมาดังนี้ครับ ซ้ายเป็นคำที่เราพิมพ์ไป ขวามือเป็นประโยคที่แปล ดังภาพ

4. ในกรณีสมมติผมเขียนบทความภาษาไทยเพื่อไปตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ ก็สามารถที่จะให้ Google translate ช่วยแปลทั้งเอกสารเลยก็พอไหว ตอนนี้ให้เราเลือกไปที่ Upload document แทนที่จะพิมหรือคัดลอกเข้าไปในช่องเหมือนตอนแรก
ตัว web based ก็จะให้เรา browse หาเอกสารที่เราเก็บไว้ก็เพียงแต่เลือก ครับ แล้วรอขบวนการแปล
5. สมมติตัวอย่างดังนี้บทความเป็นดังนี้
6. เมื่อเรากด Translate ผลจะออกมาดังนี้ ต้องบอกก่อนถ้าขนาดเอกสารใหญ่ รอนานที่เดียวครับอาจไปทำอย่างอื่นก่อนแล้วค่อยกลับมาดูผล ผมแนะนำครับ

ตรงส่วนไหนที่แปลไม่ได้เป็นคำที่เฉพาะ เช่น ชื่อนามสกุล เราสามาถแก้ไขและเพิ่มไปได้ คำที่ได้สละสลวยดีกว่าโปรแกรมแปลภาษาหลาย ๆ ตัวทีเดียว

7. แต่ก็นับว่ายังมีปัญหาอยู่เหมือนกันที่บางครั้งไม่สามารถแปลได้จริง ๆ หรือแปลแล้วไม่ถูกใจเราก็สามารถแก้ไขโดยใช้ mouse ชี้ไปที่บทความ

จะปรากฎ pop up ลอยขึ้นมาเป็นบทความภาษาไทยเดิมก่อนแปล ถ้าเราต้องการดูว่าแปลสอดคล้องหรือไม่ก็ให้เราคลิกที่ Contribution a better translation ที่เป็นเครื่องหมายบวกนั่นละครับ ดังภาพ
จะปรากฎให้เห็นสองคอลัมภ์บนและล่าง หากเราต้องการแก้ก็แก้ได้ที่ช่องภาษาอังกฤษด้านล่างดังตัวอย่างผมพิมพ์คำว่า Information เข้าไป ดังภาพด้านล่างเพื่อให้ภาษาสละสลวยขึ้น

8. คราวนี้เอกสารที่แปลสมบูรณ์น่าจะถูกมากกว่า 80-85 % เป็นส่วนใหญ่นะครับ

9. คราวนี้ถ้าเราต้องการ save บทความที่แปลต้องทราบไว้นิดครับ ว่าเอกสารที่เรา Select all -> Copy และ Paste ลงใน Word file นั้น จะมาแบบภาษาไทยนำหน้าและตามติดด้วยอังกฤษที่แปลตามก้นครับ ทำให้ต้องลบเอาภาษาไทยออกเองด้วยมือภายหลัง ผมพยายามหาวิธีที่จะเอาตัวบทความที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งอันมา แต่ยังไม่ได้ครับ(ถ้าได้จะมา Update ให้ทราบกันในฉบับต่อ ๆ ไป)

9.1 คลิกขวาที่เอกสาร และเลือก Select all
9.2 คลิกขาและเลือก Copy

9.3 เปิด New Word File และ Paste ลงไป เอกสารที่เรามาแปะก็จะได้ภาษาไทยนำหน้าและตามติดด้วยอังกฤษที่แปลตามก้นครับ แล้วลบกันตามสะดวกครับ
แค่เพียงเท่านี้ เราก็ได้ผู้ช่วยแปลเอกสารมือฉมัง มาช่วยโดยไม่เสียเวลามากแล้วครับ ข้อควรระวังอันนึงสำหรับการแปลเอกสารทั้ง Document คือ Google translator จะไม่รับ File ใหญ่มาก ๆ ครับ ต้องค่อย ๆ ตัดทอนเอาเอง คิดบทความนี้คงช่วยหลาย ๆ ท่านได้ รวมถึงผู้ปกครองที่ต้องสอนลูก ๆ ทำการบ้านนะครับ สุขกายสบายใจกันทุกคนนะครับ

อาจารย์นายแพทย์ ศักดา อาจองค์, พบ, บธบ.
SAKDA ARJ-ONG, MD, BBA, MS. In ICT
PHD program of clinical epidemiology,
Pediatrist, Pediatric Cardiologist & Intervention Ped.Cardiology
Family physicians, Emergency physicians.
Emergency Medicine, Ramathibodi Hospital, Mahidol University